มีใครเคยสงสัยบ้างหรือไม่กับเรื่องของอายุเท่าไหร่สามารถสักได้ เพราะบางทีเรายังเห็นเยาวชนบางคนที่อายุยังไม่ถึง 18 ปีหรือมีอายุต่ำกว่า 20 ปีนั้นมีรอยสักอยู่ตามบริเวณร่างกายกันเสียแล้ว จึงทำให้เกิดความสงสัยกันว่าแล้วแท้ที่จริงแล้วอายุเท่าไหร่จึงจะสามารถสักได้ ซึ่งหากใครที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าววันนี้บทความของเราได้นำเอาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อร้านสักรวมไปถึงผู้ปกครองและตัวเยาวชนเองมาแนะนำให้ดูว่าแท้จริงแล้วอายุเท่าไหร่จึงจะสามารถทำการสักลายได้ แล้วมีกฎหมายหรือข้อบังคับอย่างไรบ้าง
อายุเท่าไหร่สามารถสักได้ ตอบคำถามคาใจของเยาวชนอยากสัก
การสักลายเป็นสิ่งที่มีความเท่และมีความสวยงามอยู่ในตัวจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเยาวชนหลาย ๆ คนจึงมีความคิดที่อยากจะสักลายกันเยอะมาก ๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือแปลกแต่อย่างใดเพราะการสักลายเป็นอีกหนึ่งศิลปะบนเรือนร่างที่มีความสวยงามและน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก อีกทั้งแต่ละรอยสักก็ยังมีความหมายดี ๆ อยู่ในตัวเอง ชวนให้ผู้ที่อยากสักนั้นเลือกที่จะสักลายเหล่านั้นในการใช้เป็นสัญลักษณ์แทนตัวเองกันอย่างมากมายเลยทีเดียว
แต่ปัญหาก็จะอยู่ที่เรื่องของอายุที่หลาย ๆ คนนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่จึงจะสามารถสักได้เพราะจากที่เราเห็นกันตามท้องถนนแล้วเชื่อว่าบางคนที่ยังเป็นเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีหรือมีอายุที่ยังไม่ถึง 20 ปีนั้นมีรอยสักอยู่บนเรือนร่างกันแล้ว ซึ่งอันที่จริงประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายในเรื่องของอายุที่สามารถสักได้แบบตายตัวจึงทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลาที่เราเห็นเยาวชนเหล่านี้มีรอยสักอยู่บนร่างกายนั้นจึงไม่มีผลหรือข้อบังคับทางกฎหมายแต่อย่างใดและยังสามารถเลือกสักหลาย ๆ ลายได้อย่างเสรี
แต่หากอ้างอิงจากการสักในประเทศไทยหลาย ๆ ร้านแล้วก็จะมีหลายร้านเลยที่มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าร้านนั้นจะไม่ทำการสักลายให้กับบรรดาเยาวชนหรือในบุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปีและยังอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งนั่นอาจจะไม่มีผลทางกฎหมายก็จริง แต่เป็นการรักษาไว้ในสิ่งที่ควรปฏิบัติ เพราะแน่นอนว่าช่างสักลายก็คงมีจรรยาบรรณอยู่ในตัวเองในการที่จะทำการสักให้กับแต่ละบุคคลโดยใช้วิจารณญาณก่อนการสักนั่นเอง ซึ่งการถามอายุก่อนการสักหรือการขอดูบัตรประชาชนก่อนทุกครั้งก็ถือเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและควรทำเป็นอย่างยิ่ง
ในทางตรงกันข้ามประเทศที่พัฒนาแล้วยังประเทศสหรัฐอเมริกามีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของการสักลายเอาไว้อย่างชัดเจนว่าหากบุคคลใดที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้ทำการสักลายหรือเจาะตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้นจะมีความผิดทางอาญา เว้นเสียแต่การกระทำดังกล่าวได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง และไม่อนุญาตให้ทำการสักในบริเวณที่เป็นจุดเปราะบาง เช่น หัวนมหรือในจุดที่เป็นอวัยวะเพศสำหรับช่วงอายุที่ต่ำกว่า 18 ปี หรือในผู้ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 14 ปี อีกด้วย
อีกทั้งกฎหมายของอเมริกาก็ยังมีการระบุเอาไว้อีกว่าควรเลือกรอยสักที่ไม่ใช่การสักเป็นรูปหรือสัญลักษณ์ที่อาจไม่เป็นผลดีต่อตัวเยาวชนหรือผู้เยาว์และยังต้องมีใบยินยอมเกี่ยวกับการตอบคำถามสุขภาพของผู้รับบริการเพื่อให้ผู้ประกอบการนั้นสามารถประเมินความเสี่ยงในการสักได้ รวมไปถึงยังห้ามทำการสักหรือเจาะร่างกายให้แก่ผู้ที่อยู่ในอาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์และสารควบคุมต่าง ๆ ตามที่กฎหมายนั้นได้กำหนดเอาไว้เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของผู้บริโภคอีกด้วยนั่นเอง
ซึ่งในส่วนนี้ก็มีความเห็นว่าในประเทศไทยที่ยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของการสักที่ตายตัวแบบนี้นั้นอาจจะนำมาปรับใช้ดีหรือไม่ เพราะแน่นอนว่าเรื่องของการสักลายนั้นก็ขึ้นอยู่กับเรื่องของความเหมาะสมอีกด้วย ถึงแม้การสักลายจะเป็นศิลปะที่มีความน่าหลงใหลอยู่ในตัวแต่ก็เป็นเรื่องของความเหมาะสมที่หากเราเห็นเยาวชนในโรงเรียนมีการสักลายเกิดขึ้นจะรู้สึกอย่างไรเช่นเดียวกับการที่ไม่ทำตามกฎของโรงเรียนหรือไม่ เพราะบางโรงเรียนก็มีกฎเหล่านี้ที่ห้ามให้ผู้เรียนนั้นทำการสักลายบริเวณเรือนร่างอีกด้วย
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สามารถพูดออกไปได้ค่อนข้างยากว่าแท้จริงแล้วอายุเท่าไหร่จึงจะสามารถสักได้ เพราะในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของอายุที่จะสามารถทำการสักลายหรือการเจาะตามร่างกายได้แบบตายตัวและแน่นอน
ดังนั้นในส่วนนี้จึงเป็นสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของร้านสักหรือผู้ให้บริการที่มีดุลยพินิจอย่างไรที่จะสักให้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีหรือผู้ที่ยังมีอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สามารถใช้วิจารณญาณกันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นหากเยาวชนคนใดที่ต้องการจะสักลายก็แนะนำว่าให้มีอายุถึง 18 ปีบริบูรณ์ก่อน เพื่อความเหมาะสมเกี่ยวกับสถานภาพของตัวเองในการที่จะทำการสักลายนั่นเอง
