การคิดถึงเรื่องการดูแลรอยสักในระยะยาวเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณต้องการให้ศิลปะบนร่างกายของคุณยังดูสดใหม่ ไม่เลือนรางให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณจะต้องเริ่มคิดหาวิธีที่จะดูแลรอยนี้ในทุก ๆ วัน เรารู้ว่าคุณอาจคำตอบในใจอยู่แล้ว อย่างครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ตามที่แพทย์ผิวหนังได้ให้คำแนะนำไว้ แต่อีกหนึ่งความลับที่จะรอยสักคงทน สวยอยู่คู่กับเราตลอดไปเลยก็คือ โลชั่นทาบำรุงรอยสัก เพราะหากคุณดูแลปกป้องผิวของตัวเองให้ดี มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อรอยสักด้วยเช่นกัน ให้คุณลองหาโลชั่นที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้ง ปลอบประโลมสภาพผิวที่ระคายเคือง มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และปราศจากสารเคมีที่ทำลายผิว
โลชั่นทาบำรุงรอยสักดีต่อรอยสักจริงหรอ
โลชั่นสามารถใช้สำหรับการดูแลรอยสักได้ดี แต่ยังไม่ควรใช้กับรอยสักที่แผลยังไม่หายดี ดังนั้นคุณควรทำตามคำแนะนำในการดูแลรอยสักจนกว่าแผลจะสมานและแผลตกสะเก็ดจนหมด จากนั้นคุณก็สามารถใช้ครีมทาแผลและฟื้นบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำหอมได้เลย แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาโลชั่นดี ๆ ไว้สักขวด คุณก็ควรจะหาโลชั่นที่เหมาะสำหรับรอยสักที่มีความบางเบา ปราศจากน้ำหอม ไม่เหนียวเหนอะหนะเป็นเมือก มีความชุ่มชื้นที่ทำให้น้ำหมักรอยสักดูสวย สดใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องหาโลชั่นที่ดี มีคุณภาพและเหมาะสำหรับดูแลรอยสักจริง ๆ
ส่วนผสมที่ดีที่สุดสำหรับโลชั่นทารอยสัก
โลชั่นสำหรับทาทุกวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวควรมีสรรพคุณรอบด้าน คุณอาจจะนึกถึงแค่น้ำมะพร้าวและไม่ได้ลองใช้ส่วนผสมอื่น ๆ ที่คุณอาจพลาดไป ซึ่งให้การบำรุงที่ครบถ้วนจากธรรมชาติแท้ที่มอบดูแลผิวที่ทรงพลังมากกว่าสกินแคร์ที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งธรรมชาติเป็นสิ่งอัศจรรย์และวิทยาศาสตร์ก็ช่วยผสมผสานพืชพรรณจากธรรมชาติสู่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์เพื่อดูแลผิวในชีวิตประจำวัน
หากคุณต้องการลงทุนลงแรงเพื่อหาโลชั่นที่เหมาะสำหรับร่างกายของคุณ คุณจะต้องหาสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดใช่ไหมล่ะ เพื่อการนี้เราจึงมาบอกส่วนผสมของโลชั่นที่คุณต้องมีในโลชั่นเพื่อบำรุงรอยสัก ซึ่งเป็นส่วนผสมตัวท็อปที่เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติโดยตรง ช่วยในเรื่องการบำรุงผิวที่มีพลังในการมอบความชุ่มชื้นแบบขั้นสุด จึงช่วยให้รอยสักของคุณยังดูมีชีวิตชีวา สดใสอยู่เสมอ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวของคุณเนียนนุ่มและได้รับการบำรุงไปในตัว โดยส่วนผสมที่ดีต่อรอยสักจะมีดังต่อไปนี้
เชียบัตเตอร์
เชียบัตเตอร์มีไตรเทอร์ปีนมากมายในการดูแลสุขภาพผิวได้มากมาย โดยเฉพาะการเติมน้ำให้ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก จุดเด่นของเชียบัตเตอร์คืออนุพันธ์ของกรดไขมันธรรมชาติที่สามารถมอบความชุ่มชื้นยาวนาน ให้ความรู้สึกเหมือนทาเนยลงบนผิว
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นพืชมหัศจรรย์ที่ช่วยป้องกัน บรรเทาและรักษาแผล โดยเฉพาะปลอมประโลมผิวที่ระคายเคืองให้สงบ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยทำไมว่านห่างจระเข้ถึงถูกเลือกให้เป็นส่วนผสมในขี้ผึ้งสำหรับการดูแลรักษาแผลรอยสัก นอกจากนี้มันช่วยเสริมให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับและชุ่มชื้นได้
เซตทิล แอลกอฮอล์
เซตทิล แอลกอฮอล์ เป็นที่รู้จักในชื่อผงไขมันแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งถูกใช้ในสกินแคร์เพื่อทำให้เนื้อครีมมีความหนืดเข้มข้นขึ้นและช่วยผสมให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แต่เมื่อคุณเห็นคำว่า “แอลกอฮอล์” บนฉลากโลชั่นคุณอาจจะตกใจเล็กน้อยหรืออาจเป็นสารที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน แต่แอลกอฮอล์ชนิดนี้กลับช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นด้วยคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ
น้ำมันงา
น้ำมันงามีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระและเป็นส่วนผสมที่ไม่ชอบน้ำ ไม่รวมตัวกับน้ำหรือละลายน้ำยาก มันจึงสามารถเป็นเกราะป้องกันให้ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ภายใน และช่วยปลอบประโลมผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ มันอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี และอีที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและทนต่อรังสียูวีได้ถึง 30% นอกจากนี้ยังน้ำมันงายังมีกรดไขมันหลายชนิดที่มีความสามารถในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อีกด้วย
ดอกคาโมมายล์
ถึงแม้คาโมมายล์จะเป็นหนึ่งในกลิ่นชาที่เป็นที่นิยม แต่มันก็มาพร้อมกับประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพมากมายในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ดอกคาโมมายล์อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเทอร์พีนอยด์ที่ช่วยบรรเทาและปลอบประโลมอาการระคายเคือง รวมถึงผิวผื่นแดงและอาการคัน
วิตามินเอ
วิตามินเอจัดเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มเรตินอยด์ ซึ่งวิตามินเอและอนุพันธ์ของมันสามารถช่วยลดรอยและร่องลึกต่าง ๆ ที่ปรากฏได้ เป็นวิตามันตัวแรกที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาว่า มีความสามารถในการลดเลือนสัญญาณต่าง ๆ แห่งวัยได้
วาซาบิ
คุณไม่ได้ยินมาก่อนอย่างแน่นอน ปกติแล้ววาซาบิจะช่วยเสริมความเผ็ดในซอสโชยุเพื่อกินกับซูชิ แต่ล่าสุดวาซาบิที่ว่าถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกันแล้ว มีประโยชน์ในการช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและกระชับขึ้น เสริมความอ่อนวัยได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง
ในการเลือกโลชั่นที่ใช่ คุณจะต้องรู้จักผิวของคุณก่อนเป็นดับแรก คุณรู้ร่างกายของตัวเองมากกว่าใคร ๆ มีส่วนผสมหลายอย่างที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือไม่ถูกกับผิวของเราได้ ซึ่งส่วนผสมต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณหลีกเลี่ยงในการใช้บำรุงรอยสัก
น้ำหอมสังเคราะห์
ถึงแม้ว่าฉลากของโลชั่นจะระบุว่ามีกลิ่นที่ได้มาจากส่วนผสมของธรรมชาติโดยตรงอย่างน้ำมันดอกส้มหรือน้ำมันลาเวนเดอร์ แต่เพื่อป้องกันผิวจากการระคายเคืองให้ได้มากที่สุดคือการเลือกใช้โลชั่นที่ปราศจากน้ำหอม เพราะบริษัทที่จำหน่ายโลชั่นอาจไม่ได้ระบุส่วนผสมที่สกัดออกมาเป็นน้ำหอมในโลชั่นดังกล่าวและสามารถทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
ปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมเจลลี่เป็นส่วนผสมของไขและน้ำมันแร่ธรรมชาติที่สามารถพบได้ในขี้ผึ้งต่าง ๆ แต่อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผิวคุณ ซึ่งช่างสักบางคนอาจขี้ผึ้งทาบนรอยสักของคุณหลังจากที่สักเสร็จแล้ว เราควรหลีกเลี่ยงขี้ผึ้ง เพราะมันไม่ได้มอบความชุ่มชื้นตามธรรมชาติเหมือนกับโลชั่นอื่น ๆ ซึ่งปิโตรเลียมเจลลี่อาจปิดกันรูขุมขนและอาจทำให้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ติดอยู่ใต้ผิวหนังได้
พาราเบน
พาราเบนมักพบอยู่ในทั่วไป ซึ่งช่วยในการยืดอายุให้เครื่องสำอางและสกินต่าง ๆ ที่ชาวยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเลยและจุลินทรีย์ต่าง ๆ แต่มีการศึกษาต่าง ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่า พาราเบนมีความเชื่อมโยงกับมะเร็งเต้านมและยับยั้งการทำงานของฮอรโมนต่าง ๆ ได้
นอกจากรูปลักษณ์ของรอยสักขึ้นอยู่กับอายุผิวของคุณด้วยเช่นกัน หากคุณต้องการให้รอยสักของคุณดูอ่อนกว่าวัย คุณจะต้องโฟกัสสุขภาพผิวของตัวเองเป็นหลัก หลังจากที่สักเสร็จแล้ว คุณควรใช้บาล์มรอยสักที่เหมาะสมเพื่อช่วยรักษาสภาพสีรอยสักของคุณให้สมบูรณ์อยู่เสมอ เริ่มจากการดูแลผิวให้เป็นกิจวัตรประจำวันเพื่อให้สุขภาพผิวของคุณดียิ่งขึ้นด้วยส่วนผสมที่เราแนะนำไปหรือดีกว่านั้น ดังนั้นคุณควรเลือกโลชั่นที่เหมาะกับผิวและสามารถใช้ได้ในระยะยาว
บาล์มและเจลทาผิวของ Brawnnie เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย แถมยังปราศจากน้ำหอม บางเบาไม่หนักผิว พร้อมเติมความชุ่มชื้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ มาพร้อมกับสารสกัดพื้นพรรณธรรมชาติแท้ ช่วยปลอบประโลมผิวให้สงบ เติมความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัย ต่อต้านริ้วรอย คนไม่มีรอยสักก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เราแนะนำให้คุณลองใช้ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมช่างสักถึงชื่นชอบที่จะทาให้กับรอยสักของลูกค้าหรือตัวพวกเขาเอง
