top of page

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สักครั้งแรก

อัปเดตเมื่อ 28 มิ.ย. 2566


คำแนะนำสำหรับผู้ที่สักครั้งแรก

คุณพร้อมที่จะสักครั้งแรกแล้วหรือยัง? การสักครั้งแรกเป็นเรี่องที่น่าตื่นเต้นและอาจเป็นการเรียนรู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่อาจตามมากับคำถามที่ว่า เราจะเลือกช่างสักให้ตัวเองอย่างไรหรือแม้กระทั่งคุยกับช่างว่าเราอยากสักแบบไหน สักขาวดำหรือสีดี ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงรอยสักใช้แบบไหนดี และนอกจากนี้คุณอาจสงสัยเรื่องของประสบการณ์และความเจ็บจากการสัก การมัดจำและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ


แม้แต่ตำแหน่งที่จะสักก็อาจต้องใช้เวลาในการตัดสินนานสักหน่อย แต่ไม่เป็นไรเลย เพราะสำหรับมือใหม่ใคร ๆ ก็เป็นกันทั้งนั้น ไม่ต้องกังวลไปเพราะเราจะมาไขข้อข้องใจไปพร้อมกับคำแนะนำสำหรับผู้ที่สักครั้งแรก ที่จะบอกทุกอย่างที่คุณจะต้องรู้เมื่อสักครั้งแรก


เราจะหาและเลือกช่างสักที่เหมาะกับเราได้อย่างไร


การเลือกช่างสักขึ้นอยู่กับแบบและลายที่คุณต้องการ ถ้าหากคุณมีดีไซน์ที่ต้องการในใจแล้ว คุณจะต้องหาช่างสักที่มีความถนัดและความชำนาญในการสักแบบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีแบบต้นไม้ที่เป็นนามธรรม คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปหาช่างสักที่ถนัดงานสักสไตล์ดั้งเดิม ดังนั้นลองดูลายสักแบบต่าง ๆ ก่อน เพื่อดูว่าคุณชอบงานสไตล์ไหน


แต่ถ้าหากคุณกำลังมีปัญหากับการหาช่างสักที่ใช่สำหรับคุณ ทางที่ง่ายที่สุดคือการหาช่างสักตามช่องทางออนไลน์ ซึ่งช่างส่วนใหญ่จะมีเพจ Facebook และ IG พร้อมกับผลงานของตัวเอง หรือคุณสามารถหาร้านสักใกล้คุณได้ทาง Google Map จากนั้นก็หาโรงเรียนหรือร้านสอนสักลาย เพื่อดูผลงานและช่างสักที่เรียนที่นั่น


โดยปกติแล้ว โรงเรียนต่าง ๆ จะแปะช่องทางการติดต่อของช่างสักไว้เพื่อความสะดวกของลูกค้า แต่ถ้าเขาไม่ได้ระบุไว้ ลองหาร้านสักบน IG ดู ซึ่งโดยทั่วจะลงผลงานของช่างสักพร้อมติดแท็ก นอกจากนี้คุณสามารถหาร้านสักใกล้บ้านที่คุณรู้จักด้วยการแวะขอดูผลงานของช่างสักและแบบต่าง ๆ ที่พวกเขาเคยออกแบบไว้


ถ้าคุณยังไม่มีลายสักที่ชอบ แค่อยากจะได้ลายที่ดูเท่ห์ ทางที่ดีที่สุดคือการหาแบบอ้างอิงบนโซเชียลมีเดียและทำคอลเลกชันภาพและแบบที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษ เมื่อคุณเจอช่างสักที่คุณชอบแล้ว คุณสามารถถามช่างเพื่อออกแบบลายสักของตัวเองโดยอ้างอิงจากแบบที่คุณหามาได้


เราควรคุยกับช่างสักอย่างไร


หลังจากที่คุณได้ช่างสักแล้ว คุณจะต้องไปหาช่างสักเพื่อสักต่อ แต่ก่อนที่คุณจะสัก สิ่งที่คุณควรรู้คือคำถามต่าง ๆ ที่ช่างสักจะถามคุณดังต่อไปนี้

  • คุณอยากได้ลายสักแบบไหน คุณมีรูปหรือแบบที่อยากได้มาด้วยหรือเปล่า

  • คุณอยากสักตรงไหน

  • คุณอยากได้ลายสักขนาดเท่าไหร่

  • คุณอยากสักขาวดำหรือลงสี

ดังนั้นคุณควรเตรียมข้อมูลเหล่านี้ก่อนจะไปหาช่าง คุณอาจจะไปปรับลายหรือสีหน้าร้านก็ได้ แต่คุณจะต้องแจ้งช่างให้ทราบล่วงหน้าจะดีที่สุด ซึ่งวิธีจะช่วยให้ช่างได้จัดตารางและเตรียมตัวก่อนสักให้กับคุณได้ หลังจากที่ให้ข้อมูลกับช่างสักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถามพวกเขาว่าราคาสักเท่าไหร่ โดยคุณจะต้องเตรียมเงินเต็มจำนวนหรืออาจให้ทิปนิดหน่อยตามที่คุณสะดวก


ตำแหน่งรอยสัก

หากนี่เป็นการสักครั้งแรก คุณควรลองสักในที่ที่เจ็บน้อยก่อน ตำแหน่งไหนก็ได้ที่ไม่บอบบางหรือติดกระดูกมากจนเกินไป โดยต้นขาและต้นแขนจะเป็นบริเวณที่เจ็บน้อยกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เมื่อคุณสักที่ที่เจ็บน้อยมาก่อนแล้ว คุณจะรู้สึกเคยชินเมื่อไปสักส่วนอื่น ๆ ที่เจ็บมากกว่าส่วนที่เคยสักมาก่อน เมื่อคุณต้องการสักจุดที่เจ็บกว่านั้น คุณก็จะมีประสบการณ์การสักอยู่แล้วและรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร

ขนาดรอยสัก


เราแนะนำให้คุณลองสักลายเล็ก ๆ ก่อนสำหรับการสักครั้งแรก การนั่งสักนาน ๆ อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ระหว่างรอ ดังนั้นคุณไม่ควรสักลายที่มีขนาดใหญ่อย่างลายสักเต็มแขน เพราะคุณอาจจะรู้สึกชอบหรือไม่ชอบการสักครั้งแรกก็ได้ เพราะฉะนั้นลองสักลายเล็ก ๆ ก่อนจะดีที่สุด

งานขาวดำ vs งานสี


งานหมึกดำเป็นอะไรที่ง่ายกว่า เพราะเป็นเป็นสีที่เข้มที่สุดในบรรดาสีหมึกทั้งหมด การสักสีอาจจะต้องใช้เทคนิคการสักย้ำ ๆ ด้วยฝีเข็มเป็นจำนวนมากและหมึกหลายสีเพื่อให้สีออกมาสวยบนผิวตามที่ต้องการ แต่ถ้าเป็นสีเหลืองและสีแดงอาจจะไม่เจ็บจากการสักซ้ำเหมือนสีอื่น ๆ การสักย้ำจุดเดิมอาจจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและระคายเคืองที่ผิวหนัง ดังนั้นคุณจะต้องคำนึงการเลือกสักสีหรือขาวดำด้วยเหตุผลนี้ด้วย


เราควรถามและพิจารณาเรื่องอะไรบ้าง


อย่ากลัวที่จะตั้งคำถาม เพราะมันเป็นการสักครั้งแรกของคุณ คุณสามารถถามเพื่อน ๆ ที่สักมาก่อนได้ก่อนที่จะมาถามช่างสักของตัวเอง ดังนั้นการถามนั้นย่อมดีกว่า มันจะช่วยให้คุณสบายใจมากกว่าและรู้ในสิ่งที่อยากรู้ เพราะรอยสักจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต


อาการแพ้


หากคุณมีอาการแพ้หมึกสี คุณจะต้องแจ้งให้ช่างสักทราบและให้พวกเขาตรวจว่าคุณแพ้หมึกสีที่พวกเขาใช้หรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหมึกจะซึมลงผิวของคุณอย่างปลอดภัย ไม่เป็นพิษ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่แพ้ง่าย คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง


การจัดการกับอาการปวด


อาการปวดที่เกิดจากการสักขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่จะสัก ขนาด การไล่แสงเงาและความอดทนต่อความเจ็บปวด คุณอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยหากเลือกสักบริเวณที่มีเนื้อเยอะเป็นพิเศษ ไม่บอบบาง อย่างไรก็ตามอาการปวดจากการสักนั้นเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเข็มสักจะสักย้ำที่เดิมซ้ำ ๆ เพื่อให้ได้สีและลายเส้นที่ต้องการ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการลดอาการปวดคือการทายาชาและใช้เทคนิคตั้งสมาธิเพื่อกำหนดลมหายใจเพื่อคลายความเจ็บปวด


เราควรพกอะไรไปบ้าง


คุณอาจจะต้องนั่งหรือนอนรอจนกว่าการสักจะเสร็จสิ้น แต่ถ้าคุณต้องสักเป็นเวลานาน คุณอาจจะต้องพกบางอย่างไปแก้เบื่อหรือของกินไปด้วย สิ่งสำคัญก็คือเงินเพื่อจ่ายค่าสัก สำหรับความบันเทิงแก้เบื่อนั้น ถ้าคุณกับช่างสักเป็นคนเก็บตัว ไม่พูดอะไรมากนัก หูฟังหรือพ็อดคาสท์เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับคุณเป็นอย่างมาก


แต่ถ้ามือคุณยังว่างอยู่ คุณสามารถพกหรือถือนิตยสารไปอ่านสักเล่มเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองจากความเจ็บระหว่างสักได้ด้วยเช่นกัน คุณอาจต้องจิบน้ำหรือพกเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มาด้วย รวมถึงของว่างหากต้องใช้เวลานานหรือช่วงที่มีรู้สึกว่าน้ำตาลในเลือกมีแนวโน้มจะต่ำลง


การชำระเงิน


คุณจำเป็นที่จะต้องเช็คว่าร้านสักนั้นรับชำระเป็นเงินสดหรือสามารถโอนได้หรือไม่ เพราะหลังจากที่สักเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องจ่ายในทันที แต่ถ้าคุณจองช่างสักล่วงหน้า คุณอาจจะต้องจ่ายค่ามัดจำเอาไว้ก่อนและชำระยอดค้างทั้งหมดหลังจากที่สักเสร็จแล้ว แต่ถ้าหากงานสักของคุณใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือเป็นงานที่มีความยาก คุณควรสอบถามค่าสักล่วงหน้า งานสักที่คุณต้องการอาจมีราคาสูงกว่าที่คาดไว้ เพราะช่างสักอาจคิดค่างานเป็นรายชั่วโมงหรือคิดราคาเดียวแบบงานทั่วไปก็ได้


ทิปสำหรับช่าง


การให้ทิปกับช่างเป็นเรื่องปกติ โดยทิปทั่วไปจะอยู่ที่ 20% ของราคาเต็มเหมือนกับร้านอาหารหรือร้านทำผมทั่วไป ดังนั้นคุณสามารถยึดฐานการให้ทิปนี้ได้เพื่อเอาใจช่างสักเป็นพิเศษ ไม่ว่าลายสักของคุณจะเป็นงานละเอียดมากน้อยแค่ไหนก็ตาม


การดูแลแผลหลังสัก


งานศิลปะบนร่างกายต้องการดูแลเป็นพิเศษมากกว่างานไหน ๆ โดยคุณสามารถขอคำแนะนำเรื่องการดูแลแผลสักเฉพาะทางได้จากช่างสักของตัวเอง ช่างอาจจะปิดรอยสักใหม่ให้คุณด้วยผ้าพันแผลแบบพิเศษหรือทาด้วยเจลปลอบประโลมผิว และคุณจะต้องรอจนถึงเวลาที่เหมาะสมถึงจะเอาผ้าพันแผลออกได้


กระบวนการฟื้นฟูแผลจากรอยสักอาจจะเวลาราว 4 เดือน ใน 1-2 อาทิตย์แรก คุณจะต้องทำความสะอาดแผลและดูแลผิวอย่างอ่อนโยนด้วยสบู่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย มอยส์เจอไรเซอร์ทาผิวและพยายามที่จะไม่ขัดหรือถูแผลที่สัก นอกจากนี้คุณจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงประมาณ 1-2 สัปดาห์


หลังจากนั้นแผลก็จะค่อย ๆ เริ่มปิดและคุณสามารถใช้โลชันและครีมกันแดดเพื่อบำรุงและปกป้องผิวที่สักได้เลย เมื่อแผลหายสนิทแล้ว คุณสามารถใช้บาล์มรอยสักและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่น ๆ ในการดูแลรอยสักได้ ซึ่งมันจะช่วยให้รอยสักออกมาดูดีเหมือนวันที่สักแรก ๆ เลยล่ะ


หลังจากที่สักเสร็จแล้ว


หากคุณกำลังกังวลว่า รอยสักที่ได้จะไม่สวยตรงตามที่ใจต้องการ ใคร ๆ ก็รู้สึกแบบนั้น เพราะทุกคนคาดหวังเสมอว่ารอบสักแรกจะต้องออกมาสวยสมบูรณ์แบบ แต่คนส่วนใหญ่มักจะชอบรอยสักครั้งแรกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แม้ว่ารอยสักนั้น ๆ จะออกมาไม่ตรงเป๊ะดังที่ต้องการก็ตาม


แต่คุณยังมีทางเลือกอยู่ หากคุณไม่ชอบงานสักที่ออกมามากนัก คุณสามารถกลับไปหาช่างสักเพื่อขอแก้ไขและปรับแต่งงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ซึ่งช่างสักทั่วไปจะเสนอปรับแก้งานตามมาตรฐานทั่วไปอยู่แล้ว หลังจากที่รอยสักของคุณหายดีแล้ว ช่างสักของคุณสามารถแก้ไขงานหรือเพิ่มสิ่งที่ขาดหายไปได้ โดยปกติแล้วการแก้ไขงานไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่าต้องการแก้ไขหรือแต่งเติมมากน้อยแค่ไหน


ถ้าหากคุณไม่ชอบและไม่สามารถทนเห็นมันได้อีกต่อไป คุณสามารถหาร้านที่ช่วยปิดทับรอยสักหรือลบรอยสักได้ การปิดทับรอยสักหมายถึงการสักทับรอยสักเดิมด้วยลายอื่น แต่ถ้าเป็นการลบรอยสัก แพทย์ผิวหนังจะทำการลบรอยสักโดยใช้เครื่องเพื่อกำจัดหมึกสักใต้ผิวหนังของคุณ


ข้อควรรู้!


การสักครั้งแรกอาจเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคุณต้องเจอกับทางเลือก ความคาดหวังและอุปสรรคมากมาย ดังนั้นทำใจให้สบายและอย่าคาดหวังให้รอยสักที่ได้ต้องออกมาสมบูรณ์แบบมากจนเกินไป แต่หากคุณรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับรอยสักครั้งแรก ให้เลือกรอยสักที่เล็กและปกปิดได้ง่ายก่อน แล้วเมื่อคุณคุ้นเคยกับประสบการณ์การสักแล้ว คุณก็จะมีความอดทนและสามารถใช้ความรู้ต่าง ๆ ที่มีในการสักครั้งต่อ ๆ ได้แล้วล่ะ ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงรอยสัก

ดู 7 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page